เกษตร ซุบซิบ นินทา กัน

คุยกัน..ชายทุ่ง --เวทีแลกเปลี่ยน ความรู้ ของเกษตรกร ก้าวหน้า--

วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2561

โครงการ PBT ลดต้นทุนอาชีพและชีวิตปลอดภัย สำหรับผู้ประกอบการโลจีสติก

กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้ติดตั้ง GPS Tracking ในรถโดยสารสาธารณะ  
                ทุกประเภท ทุกคัน ทุกเส้นทาง มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 25 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา และให้ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2560 ทั้งนี้ ได้มีประกาศเพิ่มมีผลบังคับใช้ทันที ให้รถตู้โดยสาร (รถร่วม บขส.)ที่วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ - ตจว.ทุกเส้นทาง ต้องติดตั้ง GPS Tracking ให้แล้วเสร็จภายใน 31 มี.ค. 60 บังคับใช้ให้เร็วขึ้นเพื่อการบริหารจัดการเดินรถ ติดตามพฤติกรรมการให้บริการ และเพื่อความปลอดภัยตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม
            นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ประเด็นความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะเป็นนโยบายสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการเข้มงวดตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก รวมถึงพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ภายใต้โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ซึ่งเป็นการบังคับให้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน และรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้ง GPS Tracking ตามคุณสมบัติที่กรมการขนส่งทางบก ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ (เครื่องรูดใบขับขี่แสดงตัวตนพนักงานขับรถ) พร้อมระบบการทำงาน Realtime online เชื่อมโยงกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งรถโดยสารสาธารณะทุกคันจะติดตั้งครบถ้วนภายในปี 2560 เพื่อติดตามพฤติกรรมการเดินรถแบบ Realtime ทั้งพิกัด เส้นทาง ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และเพื่อประสิทธิภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย ได้ออกแบบระบบให้สามารถบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ทั้งกรมการขนส่งทางบก ผู้ประกอบการ เจ้าของรถ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่แบบ Realtime ผ่าน application “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลของรถเช่นเดียวกันกับข้อมูลที่แสดงผลในศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ฯ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมโดยสามารถแจ้งร้องเรียนทุกกรณีการให้บริการที่ผิดกฎหมายผ่านทาง application ดังกล่าวได้ด้วย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว มีพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงานพนักงานขับรถ ไม่มีการพักรถหรือเปลี่ยนคนขับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
            อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้เร็วขึ้น สร้างความเชื่อมั่น และเพื่อการควบคุมดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถตู้โดยสารสาธารณะที่พบว่ามีการใช้ความเร็วของรถเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำนวนที่สูงกว่ารถลักษณะอื่น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกประกาศเพิ่มเติม เรื่อง กำหนดประเภทและลักษณะของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่ต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนให้รถตู้โดยสารสาธารณะร่วมให้บริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถตู้ร่วมบริการ บขส.) เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ต้องติดตั้ง GPS Tracking ให้ครบถ้วนทุกคันภายใน 31 มีนาคม 2560 ส่วนรถตู้ที่ครบรอบต่ออายุทะเบียนในงวดเดือนมกราคม – มีนาคม ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถต่ออายุทะเบียนตามกำหนดเดิม และสำหรับรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ตามประกาศเดิม ส่วนบรรทุกชนิดรถพ่วง รถลากจูง ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2560 รถบรรทุกสาธารณะ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคล 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2562 นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังดำเนินการมาตรการกำกับ ควบคุม ดูแล พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง จริงจัง เด็ดขาด ทันที ในขั้นสูงสุดทุกกรณีทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ ในทุกประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในการทางเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยประชาชนที่พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการจัดการปัญหาทันที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด











อ้างอิงจาก : การใช้งานของรถด้วยระบบกําหนดตําแหน่งบนโลก (Global Positioning System : GPS). “ผู้ให้บริการระบบติดตามรถ” 
https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=2&ved=0ahUKEwjdlrPCyMfYAhWBpI8KHXVNBn0QFggsMAE&url=https%3A%2F%2Fwww.dlt.go.th%2Fth%2Fdownload.php%3Fref%3DM2E0LJyirTkjoz13q29ZMT1sM2I0oTycrTMjpJ1Sq2IZoT1vM2S0qTysrPMjZz04qmuZZ21kM0I0MTycrS8oSo3Q&usg=AOvVaw3Z0ZnKNSBn33YnxyfbfhKy

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผลิตภัณฑ์ นาโนชีวภาพ ตรา "ปู่บอกโต" อาหารหลักของพืช คืนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ตลอดไป


1.อันดับ 1 ของความต้องการใช้
สารสกัดนาโนชีวภาพ
บทบาทของจุลินทรีย์ในดิน


บทบาทของจุลินทรีย์ในดินที่สำคัญ คือการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในดินจึงกล้ายเป็นฮิวมัสและทำให้ดินมีสีดำ



ฮิวมัสมีความสำคัญ ดังนี้


  •  1.เป็นแหล่งอาหารสำหรับการเจิญของพืชและจุลินทรีย์
  • • 2.ทำให้ดินมีคุณภาพดีขึ้น  เหมาะสำหรับการเพาะปลูก
  • • 3.ทำหน้าที่เป็น buffer ทำให้ pH ของดินเปลียนแปลงไปอย่างช้าๆ  
  • • 4.ช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้มากขึ้น 
  • • 5.ช่วยเพิ่มแร่ธาตุต่างๆ ในดินเหมาะสมต่อการเจริญของพืชยเพิ่ม
         การใช้สารสกัด ในปีแรก ถึง ปีที่สาม
         จะลดต้นทุน แบบหน้ามือเป็นหลังมือ สำหรับ 
         พี่น้องเกษตรกร ด้วยสารสกัดนาโนชีวภาพ 
         ตรา "ปู่บอกโต"  ถ้าดูดีๆ จากอัตราการใช้สาร         


สำหรับพืชไร่ ตัวอย่าง จากนาข้าว  ใช้สารเพียงขวดเดียว (500 CC ) ก็สมารถฉีดพ่นนาข้าว ได้ถึง 60 ไร่  เฉลี่ยต่อไร่ เพียง 15-200 บาท ในการฉีดพ่น หนึ่งถึงสิบรอบ ตั้งแต่ แช่เมล็ดข้าว ไปจนถึง  ตั้งท้อง ออกรวง (เสริมช่ว ออกรวง ตั้งท้อง ผลิตน้ำนมข้าว ด้วย "เอนไซม์เร่งดอกผล" สูตรเข้มข้น)  ซึ่งเดิมเกษตรกร ต้องใช้ปุ๋ยเม็ด อย่างน้อย 1 กระสอบต่อไร่ ซึ่งราคาอาจสูงถึงพันกว่าบาทในบางยีห้อ   และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ เกษตรกร ต้องเพิ่มปริมาณการใช้อย่างต่อเนื่อง ในปี ถัดไป เนื่องจาก เริ่มใช้ไม่ได้ผล เมื่อใช้ในปริมาณเท่าเดิม ต่างจากสารสกัดนาโนชีวภาพ ที่จะลดปริมาณการใช้ ในปีถัดๆ ไป เนื่องจากมีการคืนสภาพความสมบูรณ์ของฮิวมัส และใส้เดือน ในดินมากขึ้นเรื่อยๆ

เอ็นไซม์เข้มข้น สูตร เร่งดอก เร่งผล


ปู่บอกโต นิวส์

ผลิตภัณฑ์ นาโนชีวภาพ ตรา "ปู่บอกโต" สารสกัดสมุนไพร ไล่แมลง ป้องกันแมลง

2. สารสกัดนาโนชีวภาพ จากสมุนไพร และแร่ธาตุ หลายชนิด ป้องกัน และไล่แมลง

สมุนไพรป้องกันศัตรูพืช


การใช้สมุนไพรป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช ทำให้ลดต้นทุน เกษตรกรปลอดภัย รักษาสภาพแวดล้อม การใช้ที่ถูกต้องสามารถป้องกันกำจัดได้ 100 เปอร์เซนต์ จึงขอแนะนำสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ใช้ และควรใช้ดังต่อไปนี้


แมลง..ไม่ใช่ศัตรูพืช ทั้งหมด

        แมลงศัตรูพืช เป็นปัญหาสร้าง
ความเสียหายให้แก่เกษตรกร อย่างมากเมื่อเกิดภาวะ แพร่ระบาด อย่างหนัก ในบางช่วง บางฤดู

        แต่ในธรรมชาติ ก็มีแมลงที่เป็น
ศัตรูโดยธรรมชาติของแมลงศัตรูพืช
เช่นกัน

        ก่อนหน้านี้ หลายสิบปี 
เกษตรกรได้รับการถ่ายทอด สร้างวัฒนธรรมความเชื่อ และความสะดวกสบาย ในการแก้ปัญหา แมลงศัตรูพืชด้วยวิธีที่ง่ายๆ คือ ยาฆ่าแมลง มหันตภัย ที่ถึงแม้จะได้ผลดี แต่ไม่เพียงแต่ แมลงศัตรูพืชเท่านั้น ที่ถูกกำจัดไปจากแปลงเพาะปลูก แมลงที่เ็ป็นมิตร กับเกษตรกร คือ แมลงศัตรูของแมลงศัตรูพืช ก็จะถูกกำจัดไปด้วย ทำให้ ในปัจจุบัน ระบบนิเวศวิทยา ในภาวะแวดล้อม ของเกษตรกร สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว

        ในบางพื้นที่เพาะปลูก ที่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าหญ้า อย่างต่อเนื่อง จะพบว่า แมลงที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร รวมทั้ง กบ เขียด ซึ่งเป็นศัตรูกับแมลงศัตรูพืช ก็สูญหายไปจากแปลงเพาะปลูก
หายไปจากชีวิตประจำวันของเกษตรกร เกือบจะทั่วทั้งประเทศ แล้ว


 ในปัจจุบัน พบว่า เกษตรกร ที่ได้รับสารพิษจากการใช้ ยาฆ่าแมลง 
เสียชีวิต และเจ็บป่วย จากภาวะได้รับสารพิษ มีจำนวนสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ



สารสกัดนาโนชีวภาพ จากสมุนไพร และแร่ธาตุ สำคัญ ตรา "ปู่บอกโต"

ถูกคิดค้น และออกแบบ มาเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ยาฆ่าแมลงของเกษตรกร ซึ่งได้ถูกทดสอบ
ในกลุ่มตัวอย่างมาแล้ว ในหลายพื้นที่ จนเป็นที่น่าพอใจ เกษตรกร ทีได้นำไปใช้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี
โดย ใช้ฉีดพ่น เพื่อป้องกันในลำดับแรก ในช่วงเวลา หรือ ฤดู แพร่ระบาด ของแมลงศัตรูพืช ได้ผลดีมากในการป้องกัน และหากจะเกิดการแพร่ระบาด ก็ไม่สร้างความเสียหายมากนัก และหากเกษตรกร ไม่ละเลย ฉีดพ่น เมื่อพบการระบาด ก็จะสามารถ ไล่แมลง เหล่านั้น ให้พ้นไปจากแปลงเพาะปลูก ได้รวดเร็ว
ทำให้ไม่เกิดความเสียหาย เท่าที่เคยมีมาก่อนการใช้ สารสกัดป้องกัน และไล่แมลง


ตัวอย่าง แปลงพริก ที่โดนเพลี้ยอ่อน เพลียไฟ ลงแปลง


 

หลังใช้ สารสกัดนาโนชีวภาพ ป้องกัน และไล่แมลง ทุก 7-10 วัน ใช้ร่วมกัน พร้อมสารป้องกันเชื้อรา (ฝาแดง) และสารอาหารพืช นาโนชีวภาพ (ฝาเขียว) ฉีดพ่นในคราวเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนค่าฉีดพ่น ทุก 7-10 วัน จนถึงช่วงออกดอก ติดลูก และเก็บผลผลิต














หนูดี : รายงาน
ปู่บอกโต นิวส์

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผลิตภัณฑ์ "ปู่บอกโต" สารสกัดสมุนไพร ป้องกัน และกำจัด เชื้อรา


สารสกัดสมุนไพร และแร่ธาตุป้องกัน และกำจัดเชื้อรา


สมุนไพรกำจัดเชื้อรา ใช้สำหรับตัดตอนกรณีเกิดราสาเหตุโรคระบาด เท่านั้น ในแปลงชีวภาพปกติควรใช้เชื้อรามีประสิทธิภาพ (ไตรโคเดอร์ม่า) ในการกำจัดเชื้อรา ปุ๋ยน้ำชีวภาพก็ป้องกันกำจัดเชื้อราสาเหตุของโรคได้ แต่สมุนไพรจะฆ่าทั้งราดีและ
ราชนิดร้าย จึงไม่ควรนำมาใช้ประจำ ควรใช้
เมื่อจำเป็นจริงๆ และเป็นบางจุดเท่านั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของรา หรือจุลินทรีย์ชนิดดีในแปลงเอาไว้


สมุนไพรกำจัดหนอนแมลงและเชื้อรา ถ้าหมักเป็นน้ำชีวภาพแล้วนำมาใช้
จะทำให้ประสิทธิภาพไม่ดี เพราะมีข้อจำกัดในการผสมน้ำ ถ้าผสมเจือจางเกินไปจะไม่เกิดประสิทธิภาพ ถ้าผสมมากเกิน พืชจะใบไหม้ จึงควรใช้แนวทางตำคั้นเอาน้ำ ต้มเอาน้ำ หรือกลั่น  หรือใช้เทคโนโลยี่ สกัดเอาสารสำคัญ ที่ต้องการมาใช้ เท่านั้น



               นอกจากสมุนไพรสำคัญในการกำจัด ป้องกัน เชื้อราร้าย แล้ว ยังมีส่วนผสมของจุลินทรีย์ที่เป็นปะโยชน์ต่อพืช ป้องกันโรงรากเน่าโคนเน่า เป็นตัวช่วยสำคัญอีกแรง

ตัวอย่าง แปลงเพาะปลูก ที่มีปัญหา รากเน่า โคนเน่า จากเชื้อรา









หนูดี : รายงาน

ปู่บอกโต นิวส์